พืชไร้ดิน,ไฮโดรโปนิกส์,ผักไม่ใช้ดิน,ผักไร้ดิน,พืชไร้ดินHydroponics,ปลูกพืชไม่ใช้ดิน,ไฮโดรโปนิค,ชุดปลูกผัก,ปุ๋ยAB,โรงเรือน,รับทำโรงเรือน

ข่าวคราว Thai Hydro Hobby ประจำงวดเดือน พ.ค.

27 ธันวาคม 2555

เริ่มโดย Hydrohobby Hydroponic ใน WHATNEWS แก้ไขล่าสุด 27 ธันวาคม 2555

เข้าชม 8710

Update ซะบ้างนะ..มาเที่ยวนี้ มาอัพให้ห้าเรื่องเลย ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่ จะมาอัพอีกเพราะครั้ง..คงใช้เวลาสัก 2-3 วัน คงจะครบทุกเรื่อง..สนใจก็เข้ามาบ่อยๆ นะจ๊ะ
 
เรื่องที่ 1 : ก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่...(ตอนนี้ รกมาก..!)
(whatnew) 201034_47301.jpg หลังจากงานบ้านและสวนเป็นต้นมา ที่ร้านเองก็วุ่นเรื่อยๆมาเลย...เพราะพอหมดงานโน้น ก็มาต่องานนี้ ..สิ่งที่หลงเหลือจากการออกงานแต่ละครั้ง ก็คือ ยอด ออเดอร์ลูกค้า ที่มีอุปการะคุณกับทางร้าน บางงานก็มากมายเสียจน เราเองไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้ได้ตามกำหนด..ไงก็กราบขออภัยงามๆ อีกครั้งนะครับ..(เจ้าที่เราไปส่งล่าช้าพวกเราก็มักจะ มีลูกผักอายุ 10-15 วันไปฝาก กันคนละ หลายๆต้น เพื่อเป็นการขอโทษที่จัดส่งให้ล่าช้า..)

(whatnew) 201034_41757.jpg

เมื่อสองสามวัน (ปลาย กพ. 53) ได้นั่งอยู่ที่ร้านคนเดียว..หันไปหันมา ก็พบว่า เรามานั่งอยู่ที่ไหนหว่า ..? ที่นี่ มันไม่ใช่ร้าน Hydro Hobby ที่เราคุ้นเคย..นี่...ที่ทางต่างๆ ที่มันควรจะเป็นสัดเป็นส่วน มุมเขียวขจี หายไปไหนแล้ว..ซุ้มมะระที่เคยเลื่องลือ ระบือนาม ก็ไม่หลงเหลือซากอะไรไว้ให้ดูต่างหน้าเลย...T_T...

(whatnew) 201034_41864.jpg

สาเหตุ.....?  ก็น่าจะมาจากการที่เราไปจัดงานนอกสถานที่มากเกินไป บวกกับ ยอดสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมากมาย พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ เองก็มีไม่เพียงพอ..ฝ่ายผลิตฝ่ายขนส่งฝ่ายจัดซื้อฝ่ายบริการ รวมอยู่ในคนๆเดียวกัน คือ นายจอม ภาโรงคนเก่งแห่ง รร.ผักไฮโดรฮ๊อบบี้ นายเอกเองก็ได้ตระหนักถึงปัญหานี้ ดี เลย รับสมัคร ระดมพล มาช่วยนายจอม อีก 4 คน ..(แต่ละคนก็ ไม่ดี ไปคนละอย่าง พอ เอาทุกคนมารวมกัน ก็เลย เป็น ไม่ดีไปทั้งหมด..เฮ้อ..!)

(hygallery) 2009629_44017.jpg

ผมกับนายเอกจึงตัดสินใจกันว่า จะไม่รับงานนอกสถานที่เป็นเวลา 2เดือน นับจากนี้ ไป (7 มีค.) ต่อจากนี้ จะเป็นเรื่องขอการ ทำ รร.ผักไฮโดรฯ แห่งนี้ ให้กลับมา สวยงามดังเดิม...

ขอกำลังใจช่วยเชียร์ช่วยลุ้น กันด้วยนะคร้าบบบบบ...
ปล.จะมาอัพความเปลี่ยนแปลง(ในทางที่ดีขึ้น)ให้ดูกันบ่ายๆครับ..
   
เรื่องที่ 2 : สารที่อยู๋ในดินเราเรียก แร่ธาตุ..แต่พอมาอยู่ในขวดกับเรียกว่า สารเคมี(ซะงั้น)Tongue out

(hygallery) 2009713_75713.jpg

เชื่อไหม...ทุกครั้งที่เราไปออกงาน ตามงานโชว์ต่างๆ ลูกค้าที่สนใจส่วนใหญ่แล้ว เป็นลูกค้าที่ ห่วงใย รักสุขภาพ กันทั้งนั้น..หลายๆคน ควบคุม และ ระมัดระวังเรื่อง การบริโภคอาหาร คำถาม ต่างๆที่พรั่งพรูออกมาจากปากลูกค้า บางคำถามเราก็นึกไม่ถึง บางคำถาม ก็เหมือนๆกันซ้ำๆ แล้วก็มีอยู่คำถามนึง ที่เราได้รับจากลูกค้าเสมอๆ ก็คือ การที่เราต้องเติมสารอาหารให้กับพืชลงในน้ำ และเราก็ยังไปโฆษณาว่า ผักเราปลอดสาร...!

(whatnew) 201034_47600.jpg

ซึ่งมันก็ไม่ถูก...ไม่ควรใช้คำว่าผักปลอดสาร เสียเลยด้วยซ้ำ... แม้แต่ผัก ออแกนนิก เองก็ ไม่สมควรใช้คำนี้...ลูกค้าส่วนใหญ่ พอเห็นเว่าเรา เติมสารอาหารลงในน้ำ ก็ กลัวกันไปยกใหญ่ หาว่า ไหนละปลอดสาร...! แล้วที่เติมลงไปในน้ำละเรียกอะไร..?

(whatnew) 201034_47729.jpg

ผมเองก็ได้แต่ยกหลักสูตร ตอนสมัยเรียน ป.4 โดยเฉพาะ สาขาที่ผมจบคณะวิดยาฯมา เอกฟิสิกส์ โทเคมี มาอธิบายกับลูกค้ากันยกใหญ่...(สงสัย หลักสูตร เรื่องการเกษตร สมัยนี้ คงเปลี่ยนไปแล้วแน่เลย..?)
...จากที่ ครูประชาบาล ที่รร.บ้านโนนสูงลิบลิ่ว ของผม ได้เคยสอนผมว่า พืชอาศัย แร่ธาตุในดิน อากาศ และ น้ำ บวกกับแสงแดด ในการเจริญเติบโต ผมเองก็จำฝังใจตั้งแต่นั้นมา ว่าในดินนั้นมี แร่ธาตุที่ พืชใช้ในการเจริญเติบโต...? แต่ไอ้ คำว่า แร่ธาตุเนี่ย มัน อะไรบ้างละ.. คำๆนี้มันกว้างมากๆๆๆ เลย ไอ้เจ้าแร่ธาตุเนี่ย มันคืออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน สูงตำดำขาว อย่างไร มิเคยเห็น..?

(whatnew) 201034_47915.jpg

http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK18/chapter8/t18-8-l1.htm
เดี๋ยวจะหาว่าโม้..นี่ เป็นเวปความรู้เรื่อง ดินและปุ๋ย สารนุกรมสำหรับเยาวชนไทย เล่ม 18 ถ้าขี้เกียจอ่านกัน เด๋วผมจะสรุปให้ดังนี้ ครับ.. จากข้อ 2.ดินเป็นแหล่งให้ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ทั้งนี้ ธาตุอาหารของพืชจะถูกปลดปล่อยออกจากอินทรีย์วัตถุและแร่ต่างๆที่เป็นองค์ประกอบของดิน ให้อยู่ในรูปที่รากของพืชสามารถดูไปใช้ได้โดยง่าย..แล้วก็หัวข้อ ธาตุอาหารมีกี่ชนิดแบ่งเป็นอะไรบ้าง...?ในนั้น เขาบอกว่ามีทั้งหมด 3 กลุ่ม

(whatnew) 201034_48200.jpg

กลุ่มที่ 1 เป็นธาตุ (เอ้...ถ้าผมจะเรียกว่า สารเคมี บ้างละจะเป็นไรไหม..?) ที่ พืชใช้ในปริมาณมาก..ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซี่ยม
กลุ่มที่ 2 เป็นธาตุ แคลเซียม แมกนีเซียม และ กำมะถัน (มันก็สารเคมีเหมือนกันละว้า....) ถ้าใครไม่อยากกินสารเคมี ขอแนะนำให้ กินแต่น้ำเปล่า..
กลุ่มที่ 3 เป็นธาตุ แมงกานีส โบรอน โมลิดินัม ทองแดง สังกะสี และอื่นๆ อีกเยอะแยะ ตาแป๊ะก่าย.. เป็นธาตุ (สารเคมี) ที่ พืชใช้น้อย แต่จำเป็นต้องมี ผู้คนส่วน ใหญ่ พวกนักเกษตร เขาจะเรียก กลุ่มนี้ ว่า พวก จุลธาต

(whatnew) 201034_48663.jpg

แล้วที่นี้มาดูสารอาหาร ของพืชไฮโดรโปรนิก กันบ้างว่ามีอะไร..
ธาตุอาหาร ไฮโดรโปนิก (สารเคมี นะ..) ประกอบไปด้วย..
กลุ่มที่ 1 สาร...!โพเทสเซี่ยม+ไนโตรเจน+ฟอสฟอรัส จัดให้อยู๋ในรูปของไนเตรท...เพือให้มันเสถียร และง่ายต่อการดูดซับ..
กลุ่มที่ 2 สาร...!แมกนีเซียม +กำมะถัน+แคลเซี่ยม จัดให้อยู๋ในรูปของฟอสเฟต ...ก็เหมือนข้างบนแหละ..
กลุ่มที่ 3 สาร..!แมงกานีส+โบรอน+โมลิดินัม+เหล็ก+สักกะสี+ทองแดง+ทองม้วน..! อันนี้เป็นจุลธาตุ...

(whatnew) 201034_48953.jpg

จะเห็นได้ว่า ธาตุอาหาร ในดิน หรือธาตุอาหาร ไฮโดรโปรนิก ก็เป็น สารเคมี หรือ จะเรียกว่า แร่ธาตุ ก็ได้ ชนิดเดียวกันคล้ายๆกัน เพียงแต่...ไฮโดรโปรนิก นักวิจัย หรือ ดร.ทางด้านการเกษตร เขาได้ทำการวิจัยแล้วว่า พืชใช้สารพวกนี้ อะไรบ้างและเป็นปริมาณเท่าไร จากนั้นก็นำ แร่ธาตุเหล่านี้ (สารเคมี) มาทำการผสมกันในอัตราส่วนที่ พืชสามารถนำไปใช้ได้เลยในทันที่ได้ง่าย ไม่ ต้อง มานั่งผัดแกงต้มตุ๊น หรือ เข้าเวฟ ก่อน (ฟาสฟู๊ส ว่างั้นเถอะ) (ทางการเรียกย่อยสะลาย)
เพื่อให้พืชได้นำไปใช้ได้สดวกขึ้น และครบถ้วนตามที่พืชต้องการ..ในปุ๋ยหมัก ก็มีในโตเจนสูงเหมือนกัน แต่ มันดีกว่า ไนโตรเจนในปุ๋ยเคมีอย่างๆไร..มะ...เรามาดูกัน...

(whatnew) 201034_49181.jpg

ปุ๋ยอินทรีย์ กับ ปุ๋ยเคมี 55555...ต่างกันไหม...? ถ้าตอบกันตรงๆ ก็แตกต่างกันครับ...แน่นอน..เพราะ (ยกตัวอย่างปุ๋ยยูเรีย หรือ ไนเตรต) ปุ๋ยอินทรีย์หรือ ปุ๋ยหมัก เองกว่าจะแตกตัวเป็น ไนเตรต ก็ใช้เวลานาน ทำให้พืชนำไปใช้ได้ครั้งละไม่มาก ทำให้ปริมาณสะสม ของในเตรตมีน้อยไปด้วย ผิดกับปุ๋ยเคมี ที่ มีเพียบพร้อมอยู่แล้ว มีเท่าไร พืชก็กินไม่อั้น...อย่าว่าแต่ พืชกินไนเตรตเลย แม้แต่คน อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน (ยกเว้นเงินเนอะ..!) แต่ ไนเตรตเอง ก็ย่อยสลายหรือ ถูกใช้หมดไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน จากการสังเคราะห์แสงของพืช..ดังนั้น...เมื่อรู้ดังนี้แล้ว..ก็อย่าใช้สารละลายเยอะเกินไป หรือ เข้มข้นเกินไป รวมไปถึง เมือเราต้องการสลายไนเตรตตกค้าง ก็ทำได้ง่ายมา คือ งดการให้ธาตุอาหารพืช 1-3 วัน ให้แต่น้ำเปล่าอย่างเดียว ..ปล่อยให้สังเคาะห์แสง กับน้ำเปล่าพืชก็จะใช้ไนเตรตสะสมในลำต้นหมดไปเอง...

(whatnew) 201034_49375.jpg

ถ้าศึกษากันไปลึกๆ ก็จะพบว่า ในการเจริญเติบโตของพืช ไนโตรเจนเป็นสิ่งจำเป็นมากในการ สังเคาะห์แสง (ทำกับข้าว)ดังนั้นเวลาที่พืชดูธาตุอาหารขึ้นไปทางรากแล้ว ยังไม่ทันสังเคาะห์แสง ก็จะมี ไนโตรเจน หรือ ไนเตรท ตกค้างอยู่ใน รากพืช หรือ ลำต้น เป็ฯบางส่วน...ก็เลยมี นักโภชนาการ บางท่านแย้งกลับมาว่า กินผักไฮโดรโปรนิก เนีย...มันจะมีสารตกค้าง พวกไนเตรท แล้วถ้ามันสะสมกันมากๆ มันก็จะเป็นสารที่เอื้อกำนวยต่อการเกิดมะเร็ง นะจะบอกให้...
อันที่จริงแล้ว เรื่องนี้ เขารู้กันมาตั้งนานแล้วละลุง..!   แล้วเขาก็มีบทความตอบโต้กัน เยอะแยะ รวมไปถึง วิธีการ กำจัดไนเตรทตกค้างในผักไฮโดรโปรนิด เยอะแยะไปหมด ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมเอาละกัน...ใบ้ให้นิส.... ที่เวปนี้ ก็มีให้อ่านอยู๋เหมือนกัน.....ก็ลองไปหาอ่านที่อื่นดูบ้างก็ได้.. เดี่ยวมันจะนอกประเด็น ของหัวข้อนี้ไปซะ...

(whatnew) 201034_47523.jpg

สรุป...ทั้งปุ๋ยหมัก น้ำจุลิทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งหลายทั้งปวง เอง ก็ต้องทำการย่อยสลาย ออกมาเป็นธาตุอาหาร แต่ละตัว ก่อน พืชถึงนำไปใช้ได้ สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ ปริมาณที่พืชได้รับ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี หรือ ปุ๋ยอินทรีย์ ถ้ามีปริมาณมากเกินไป ก็ก่อให้เกินสารสะสมในร่างกายได้เหมือนๆกัน..    

เมื่อทราบดังนี้ แล้ว ท่านสมาชิก ไฮโดรฮ๊อบบี้ทั้งหลาย ก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป ถึงกับทำให้อด รับรู้ถึงรสชาติ ผักหวานๆกรอบๆ เวลาเคี้ยวสดๆ นะมันอร่อยขนาดไหน..!
  ปล.เที่ยวหน้า จะเอาสูตร ธาตุอาหาร ของทางร้านมาตีแผ่ให้ รับทราบกันอย่างละเอียดครับ...วันนี้ เวลาหมด  พบกันใหม่คราวหน้า...สวัสดีครับ.._/\_
   
เรื่องที่ 3 : ชุดปลูก กล่องโฟมระบบใหม่ ไม่ประสพความสำเร็จครับ..เลยไม่ทำขาย

(myimag) 20091215_39910.jpg

มันก็สีบเนื่องมาจาก หน้าหนาว(เทียมๆ) ที่ผ่านมา ผมได้เคยทำการทดลอง ตั้งโจทย์ไว้ว่า จะทำชุดปลูกผักไฮโดรโปนิส แบบ กล่องโฟม ที่มีคุณสมบัติ ต่อสู้กับอากาศร้อน และ ราคาถูก ไว้สำหรับ ฤดูร้อนนี้...ก็เคยลงรูปตัวอย่างให้ดูกันไปบ้างแล้ว..ทดลองปลูกอยู่ 2 เดือน...เฝ้า ตรวจวัด อุณหภูมิ วัด EC,PHกัน อาทิตย์ละครั้ง...
พบว่า ความร้อนในระบบ ยังสูงอยู่ ถึงแม้ว่า ปริมาณน้ำในระบบจะเยอะขึ้น อีก เกือบเท่าตัว...ผักเองก็มีการเจริญเติบโตช้ากว่าในระบบ NFT ที่ร้านจำหน่ายอยู่..บวกกับ ต้นทุนและวัสดุที่เพิ่มขึ้น กว่ากล่อง 6 ที่ขายอยู่ทุกวันนี้ เกือบ 2.5 เท่าเลยที่เดียว..



ผมก็เลยฟันธงไปว่า .....เลิก...

(whatnew) 201034_49662.jpg

ตอนนี้ ก็เลยเอามะเขือพวงมาปลูกแทน หนุกๆ ไปก่อน...พลางๆ...อิอิ..
ส่วนคำแนะนำสำหรับหน้าร้อนนี้ มี ข้อเดียว.....อย่าตากแดด ...พลางแสง 80% (ด้วยสแลน) ไปเลย น้ำในระบบ เยอะๆ และเอาไปวางไว้ที่ร่มๆ มีลมถ่ายเทได้ดี แล้วก็ปลูกผักไทยแทนไปก่อน..อย่าหวังผลกับผักสลัด ว่าจะกินได้ภายใน 40 วัน ...นับจากการเริ่มเพาะเมล็ด..
   
เรื่องที่ 4 :ตอกย้ำอีกครั้งเรื่องความร้อนของบ้านเรากับ ผักสลัดของฝรั่ง..

(whatnew) 201034_49803.jpg

ข่าวด่วน....!
ร้อนนี้ ทำท่าจะเป็น ร้อน Chip (ที่เราหามันไม่เจอ (หาย)) มันก็คงจะสมชื่อละครับ...ผักในราง ล้มหายตายจาก กันแน่นอน ถ้า...เรายังปลูกเหมือนกับ ในหน้าหนาวที่ผ่านมา.. รู้ดังนี้ แล้ว เรา มาเตรียมตัว รับมือกับ ฤดูร้อนแสบสัน สท้านทรวง นี้กันเลยดีกว่าครับ...

(whatnew) 201034_49898.jpg

1. ให้ทำการ หา สแลน กว้างๆ ที่สามารถจะมาคลุม ปิดบังแสงอาทิตย์ รางปลูกของเราได้อย่างทั่วถึง (ควรเว้นระยะให้สูงกว่าแปลงผักเรา สัก 1 เมตรขึ้นไป เพราะลมจะได้ ถ่ายเทสะดวก..ถ้าใครไม่มี ก็แนะนำให้ ไปซื้อ ...ในห้างก็มีขาย หรือไม่ก็ร้านวัสดก่อสร้าง...แต่.....ถ้าที่บ้านท่านมี ทีร่มๆ (ไม่ใช่ใต้ต้นไม้นะครับ) มีแสงแดดส่องถึง ในช่วงเช้า ไม่เกิน บ่ายโมง ก็พอทำเนาได้บ้าง..แต่ขอย้ำว่า ต้องมีลมถ่ายเทสะดวก นะครับ..

(whatnew) 201034_50122.jpg

2. เติมน้ำในระบบ ให้เต็มถัง ล้นปรี่...ตรวจสอบ สายยางสีดำ (PE) ที่ เป็นตัวจ่ายน้ำลงรางปลูกของเรา (สังเกตุที่ตรงหัวรางปลูก สายสีดำเส้นเล็กๆประมาณหลอดกาแฟ) ว่าน้ำไหลแรงดีใหม่ โดยการดึงออกมาดู ถ้าไหลไม่แรง ให้ นำ ลวดแข็งๆ มาแยงลงไป ตรงๆ ตามแนว ท่อ (เพราะอาจะมีสิ่งมาอุดตันเช่น ตะไคร่น้ำหรือเศษรากก็เป็นได้)

(whatnew) 201034_50409.jpg

3. เพิ่มการถ่ายเทความร้อนในระบบ ให้เร็วขึ้น โดยการ เปลี่ยนปั้มน้ำ ให้ใหญ่ขึ้น (อันนี้ไม่ค่อยแนะนำเท่าไรเพราะเปลืองตังค์) และการเปลี่ยนปั้มที่ใหญ่เกินไปมาก อาจทำให้ น้ำในระบบ รั่ว หรือ ล้น ได้ เพราะ จุดระบายน้ำ ออกของเรา อาจไม่เพียงพอ ต่อขนาดปั้มที่ใหญ่เกินไปมากๆ...ตย.
ปั้มขนาด 1600 ลิตร/ชม. ของโต๊ะ 1M.อาจเปลี่ยนเป็นขนาด 2500 ลิตร/ชม.
หรือ 2500 ลิตร/ชม. VR แนวตั้ง,กับโต๊ะ 2M เป็น 3000 ลิตร/ชม.
หรือ 4500 ลิตร/ชม เป็น 5500 ลิตร/ชม.  มากกว่านี้ น้ำจะล้นได้
หลังจากนั้น กรณีชุดปลูกเรา มีระบบรางรวมน้ำ (โต๊ะปลูก หรือชุด MV) ให้ ปรับความลาดเอียง หัวรางให้สูงชันขึ้นอีก 5 องศา..

(whatnew) 201034_50232.jpg

4. หาวัสดุมาคลุมถังน้ำ ป้องกัน ความร้อนจากแสงแดด และการเกิดตะไคร่น้ำ (หน้านี้ ตะไคร่น้ำเกิดเร็วมาก..) จากนั้น ให้หา อ๊อคซิเจนตู้ปลา ติดหัว ฟู่อากาศ ใส่ ลงไปในถังสารละลาย เพื่อ เพิ่ม อ๊อคซิเจนในน้ำ เพื่อเป็นการลดความร้อนอีกวิธี...ช่วยได้บ้างเล็กน้อย..

(hygallery) 201032_42494.jpg

5. หมั่น เติมขวดใส่น้ำเปล่าปิดฝาสนิด แช่ช่องน้ำแข็ง ให้เป็นน้ำแข็ง แล้วนำไปหย่อนลงในถังสารละลาย ตอนเที่ยงๆ จะอยู่ได้ประมาณ 2-3 ชม..

(whatnew) 201034_50981.jpg

6. เฉพาะพวกที่ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินๆทองๆ แนะนำให้ติดตั้งระบบสโม๊คละอองน้ำฝอย..(โทรมาปรึกษาได้) เคยเห็นขายในงานเกษตร ลูกประมาณ 4 พันบาท..หรือถ้าแพงอีกหน่อย ก็ พัดลมละอองน้ำ E-Vac ขายกันอยู่ประมาณ 2 หมืนกว่า อันนี้ดีเยี่ยมเลย..แต่ก็เปลืองไฟ..

(whatnew) 201034_52378.jpg

7. ปรับความเข้มข้นของธาตุอาหาร ให้ไปอยู่ประมาณ 3CC ต่อน้ำ 1 ลิตร..ลดความเข็มข้นลงหน่อย เพราะหน้าร้อนน้ำระเหยเร็วมาก..

(myimag) 2009712_54792.jpg

ถ้าทำทั้งหมดแล้ว ผักเรายังหน้างอ เป็นสาวงอนแล้วละก็ ปลูกผักไทยกันดีกว่าครับ..เช่นผักกาดหอม นี้ ก็กอสวย และก็ คล้ายๆ กรีนโอ๊คด้วย..
   
เรื่องที่ 5 : ไฮโดรโปรนิคกับสารไนเตรทตกค้าง ...ปลอดภัยจริงเหรอ...กำจัดได้ไหม..

(hygallery) 2009713_76899.jpg

(โพแทสเซียมไนไตรท์ (KNO3) และ โซเดียมไนไตรท์ (NaNO3))

ก่อนจะเข้าหัวข้อ ขอเท้าความกันก่อนเล็กน้อย เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจ ถึงธรรมชาติชองพืช (แบบ ไม่เป็นวิชาการ ..เพราะ ผู้เขียนเองก็ไม่เป็นวิชาการเหมือนกัน..555)
กว่าพืชผัก 1 ต้น จะงอกออกมาเป็นผักและโตพอที่จะถูกมนุษย์ใจร้ายเคี้ยวกันกรวบกร๊าบ อยู่ทุกวันนี้ มันต้องทำไงบ้าง..

(hygallery) 2009712_73897.jpg

1.ต้องมีอากาศ ในที่นี้ ก็ อ๊อคซเจน และก็อากาศที่เราหายใจได้เนี่ยละ..
2.ต้องมีน้ำ เพื่อช่วยในการ นำพาธาตุอาหาร และเป็นส่วนประกอบหลักของ พืชผักเลยก็ว่าได้
3.ต้องมีแร่ธาตุ ธาตุอาหารต่างๆ 30 กว่าชนิด
4.ต้องมีแสงแดด เพื่อให้เกิดกิจกรรมสังเคราะห์แสง..(พอไม่มีแสงแดด ก็จะเกิดกิจกรรมอย่างอื่นแทน.......นอนไง..)
5.ต้องมีสิ่งที่ช่วยพยุงลำต้น ให้ตั้งตรงอยู่ได้ ...จะเป็นดิน หรือ รางปลูก หรือ ไม้ค้ำ หรือ หิน ก็ได้ทั้งนั้น..

(whatnew) 201034_53791.jpg

แล้วของทั้ง 5 ข้อ นี้ ก็ต้องมีอย่างเหมาะสมด้วย ไม่มากไม่น้อยเกินไปในแต่ละเรื่อง..อย่างไหนมากเท่าไร น้อยเท่าไร เอาไว้มีเวลาว่างๆ (จะเกษียร แล้ว..เย้..) จะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งครับ.และถ้าทุกอย่างลงตัวพอดี กับความต้องการ ของพืชผักในแต่ละชนิดนั้นๆ มันก็จะเจริญงอกงาม ออกใบออกดอกออกผลได้อย่างเต็มที่...


ผู้รู้หลายๆท่านก็บอกมาว่า กินผักไฮโดรเนี่ย จะมี ไนเตรตตกค้างเยอะ..แล้วเจ้า สารไนเตรตและไนไตรท์ที่กินเข้าไปอาจถูกแบคทีเรียในลำไส้บางชนิดเปลี่ยนไปเป็นสารที่ก่อให้เกิดสาร ก่อโรคมะเร็งหรือคาร์ซิโนเจน (Carcinogen)  เช่นหากเปลี่ยนไปเป็นไนโทรซามีน (Nitrosamine) แล้วอาจจะเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

(whatnew) 201034_53964.jpg

อนึ่งการสะสมไนเตรตนี้มิใช่จะเป็นปัญหาเฉพาะพืชที่ปลูกโดยไม่ใช้ดินเท่านั้น การปลูกพืชบนดินก็สามารถเกิดปัญหาดังกล่างได้เช่นกันถ้ามีการใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบหลัก (เช่นแอมโมเนียมไนเตรต) ก่อนการเก็บเกี่ยวโดยที่ไนเตรตที่พืชดูดเข้าไปสะสมในเยื่อที่ยังไม่เปลี่ยนรูปเป็นสารประกอบอินทรีย์ไนโตรเจน เช่น กรดอมิโนและโปรตีน ดังนั้นจึงไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนเมื่อใกล้เก็บเกี่ยวพืช ก็เพื่อให้พืชใช้สารอาหารต่างๆที่สะสมอยู่ในลำต้นให้หมดเสียก่อน..
   
เรื่องที่ 6

เนื่องจากเดือนที่ผ่านมาอากาศร้อนมากมาย ทำให้ลูกผักของเรา บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
แต่ก็ฟันฝ่าอุปสรรค จนถึงบัดเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เริ่มสวยงานแล้วครับ โตเร็ว ถ้วยปลูกสีขาวตัดกับสีเขียวสวยดีน่ะครับ
 
Bookmark and Share
Advertising Zone    Close
 
Online:  1
Visits:  2,262,604
Today:  23
PageView/Month:  1,680

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com